เรื่องเล่าฝรั่งดูถูกเพชรราชินี
2 มค. 61 3898
คำอธิบาย :
เรื่องเล่าฝรั่งดูถูกเพชรราชินี การเริ่มต้นชีวิตของการเป็น "พระราชินี" ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ...
เรื่องเล่าในครานั้นกลายเป็นเรื่องที่ทำให้บรรดาเพื่อน ๆ การแต่งกายไม่จำเป็นต้องประดับด้วยเครื่องเพชรมากเกินไป ๆ ทรงต้องการรักษาหน้าตาประเทศไทยไม่ให้คนต่างชาติมาดูถูกได้ อีกข้างหนึ่งไม่ใส่เพื่อจะไปจับมือคน ท่านรับสั่งว่าต้องให้ฝรั่งมาช่วยทำการเริ่มต้นชีวิตของการเป็น "พระราชินี" ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เปรียบประหนึ่งเป็นความฝัน
ซึ่งแม้แต่พระองค์ท่านเองก็ยังแทบไม่เชื่อ เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์เป็นนักเรียนของโรงเรียนเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์ ระหว่างที่ทรงศึกษาอยู่ในช่วงปีสุดท้ายนั้น ทรงเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่า มีหมอดูเดินเข้าไปในบ้าน (วังเทเวศร์) และพยากรณ์ดวงชะตาของพระองค์ท่านว่า ในอนาคตจะได้เป็นถึงพระราชินี เรื่องเล่าในครานั้นกลายเป็นเรื่องที่ทำให้บรรดาเพื่อน ๆ ต่างพากันสถาปนาด้วยอารมณ์ของเด็ก ๆ โดยเรียกขานพระนามพระองค์ท่านว่า "ราชินีสิริกิติ์" แต่สุดท้ายคำทำนายของแขกหมอดูนั้นกลับกลายเป็นเรื่องจริง
เมื่อ ม.ร.ว.สิริกิติ์ อายุได้ 17 ปี และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงขอหมั้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 และทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชินี ณ วังสระปทุม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเฉลิมพระยศสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ เป็น "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี" เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ต่อมาทรงได้รับสถาปนาเป็น "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ" และนับแต่นั้นมา ทรงเป็น "นางแก้วคู่พระบารมี" เคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเสด็จฯ ณ ที่แห่งใดก็ตาม พระสิริโฉมอันงดงามของสมเด็จพระราชินีแห่งประเทศไทย ได้รับคำกล่าวขานและยกย่องเมื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ ได้โดยเสด็จฯพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรปและสหรัฐอเมริกา หนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับในสองทวีปลงข่าวกันเอิกเกริกเกี่ยวกับความงามของพระองค์ อาทิ ไดเว็ลท์รายวันในกรุงบอนน์ ประเทศเยอรมนีตะวันตก (ในขณะนั้นยังแบ่งเป็นเยอรมนีตะวันออกและตะวันตก) ลงข่าวว่า
"ผู้มีเกียรติและบุคคลอื่น ๆ ที่ไปร่วมในพิธีการรับเสด็จต่างมีความมุ่งหมายอย่างเดียวกันคือ จะได้แลเห็นพระสิริโฉมอันงดงามของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ฉลองพระองค์สีขาวประทับเคียงข้างประธานาธิบดีลุบเก้แห่งเยอรมนี พร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงมีพระสิริโฉมเป็นเสน่ห์ราวเทพธิดา งดงาม และทรงประทับอยู่ด้วยความสง่าบนพรมผืนมหึมา แวดล้อมด้วยผู้มีเกียรติที่มาเฝ้าฯรับเสด็จ การแย้มพระสรวลของพระองค์ได้แปลงความรู้สึกของผู้ที่ได้พบเห็น จากความนับถือด้วยความสุภาพธรรมดา เป็นความรู้สึกด้วยความจริงใจ..." หนังสือพิมพ์ในกรุงลอนดอน ถวายสดุดีว่า "ทรงเป็นพระราชินีที่สดใสท่ามกลางสายพระพิรุณ"
ส่วนหนังสือพิมพ์ในประเทศอิตาลี พาดหัวข่าวว่า "พระองค์ (ราชินี) มีพระชนม์ 28 แต่ดูเหมือนน้อยกว่านั้น 10 ปี" หนังสือพิมพ์ในกรุงปารีส พาดหัวข่าวว่า "ปารีสรักสิริกิติ์-พระราชินีผู้ทรงยิ้ม" อีกฉบับของฝรั่งเศส เขียนสดุดีว่า ประเทศไทยใช้อาวุธคือความงามของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หนังสือพิมพ์สตาร์บุลเลติน แห่งฮอนโนลูลู สดุดีว่า "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ของไทย ทรงมีความงามประหนึ่งตุ๊กตาที่อาจชนะตำแหน่งราชินีแห่งราชินี หากมีการประกวดพระราชินีกันขึ้นทั่วโลก"
ขณะที่เดลิเกทซ์ หนังสือพิมพ์อีกฉบับหนึ่งของอังกฤษ สดุดีว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็น "พระราชินีแห่งความงาม...ทรงเป็นพระราชินีผู้มีพระฉวีวรรณล้ำเลิศ ทรงแย้มพระสรวลเสมอ ทรงมีพระเกศาและพระเนตรสีนิล" พร้อมกับคำบรรยายพระบรมฉายาลักษณ์ว่า "เราขอต้อนรับพระราชินีผู้ทรงมีพระสิริโฉมงดงาม สว่างไสว แม้แต่กลางวันที่มืดมัวก็กระจ่างแจ้งได้" ขณะที่หนังสือพิมพ์ดิ โพลแมท ของสหรัฐอเมริกา ยกคำกล่าวของประธานาธิบดีซูการ์โน แห่งอินโดนีเซีย ที่สดุดีว่า "ทรงเป็นพระราชินีสิริโสภาที่สุดในโลก" มาลงพิมพ์ถวายพระเกียรติยศ เช่นเดียวกับในงานเลี้ยงพระกระยาหาร ณ โรงแรมเมย์ฟลาวเวอร์ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นักข่าวสังคมได้ถวายพระสมัญญาว่า ทรงเป็น "พระสุวรรณเทวี" (The Golden Girl) เพราะในวันนั้น พระองค์ทรงชุดไหมสีทอง บนพระอังสาทรงกลัดเข็มกลัดประดับเพชรรูปครุฑ และยังว่าดาราฮอลลีวูดสมควรยิ่งที่จะเข้าโรงเรียนสิริกิติ์ เพื่อฝึกยิ้มอย่างธรรมชาติ เพราะ "ทรงยิ้มเรียบร้อยละมุนละไม ไม่ปรากฏความเหนื่อยหน่ายแม้แต่น้อย"
คลิปจาก: ThaiNews 24
Tags :
คลิปก่อนหน้า 20 เรื่อง ของ ในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่หลายคนไม่เคยรู้
loading...